จัดฟันแบบโลหะ

     จัดฟันแบบโลหะ หรือจัดฟันเหล็ก เป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เหมาะกับตั้งแต่วัยเด็กจนถึงไวผู้ใหญ่ โดยเฉพาะวัยเด็กและวัยรุ่นชื่นชอบการจัดฟันแบบนี้เป็นพิเศษเนื่องจากสามารถเปลี่ยนสียางจัดฟันได้ทุกๆเดือน เป็นเทรนด์การจัดฟันเหล็กที่ได้รับความชื่นชอบจากวัยรุ่นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้การจัดฟันเหล็กมีราคาที่สามารถเข้าถึงได้ แบ่งชำระรายเดือนได้ และสามารถแก้ปัญหาฟันได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นฟันที่ซับซ้อน ฟันห่าง ฟันซ้อนเก ไปจนถึงฟันล่างคร่อมฟัน จัดฟันใส่ฟันปลอม

     โดยการจัดฟันแบบโลหะ สามารถสร้างรอยยิ้มสวยเพิ่มความมั่นใจให้กับคนไทยมามากมาย ทำให้เป็นที่นิยมมากที่สุดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

 

จัดฟันแบบโลหะคืออะไร

     จัดฟันแบบโลหะหรือจัดฟันเหล็ก จัดฟันลวด คือการจัดฟันที่มีเครื่องมือติดแน่นกับฟัน ช่วยแก้ปัญหาการเรียงตัวของที่ไม่สวย เช่น ฟันซ้อน ฟันสบไม่ดี ฟันล่างคร่อมฟันบน รวมไปถึงความสัมพันธ์ของกรรไกร ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาในการบดเคี้ยวอาหาร และทำให้ไม่มั่นใจในการยิ้ม ใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้ดีเท่าที่ควร และการจัดฟันแบบโลหะในปัจจุบันถือว่าเป็นแฟชั่นอย่างนึง ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่เห็น เด็กนักเรียน นักศกษา วัยรุ่น ดารา นักร้อง อินฟลูเอนเซอร์ และคนทั่วไปนิยมทำกัน

ข้อดีของการจัดฟันแบบโลหะ

  • เป็นการจัดฟันที่สามารถแก้ไขปัญหาได้จากเคสที่ซับซ้อนมากได้ ในราคาที่เข้าถึงได้
  • ช่วยแก้ไขฟันซ้อนเก ฟันหาง ให้เรียงตัวสวยงามได้เป็นอย่างดี
  • ช่วยให้สุขภาพช่องปากดีขึ้น เมื่อฟันเรียงตัวสวยหลังจัดฟันก็ทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย ลดโอกาสในการเกิดฟันผุ
  • ช่วยยิ้มสวยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น บุคคลิกภาพดีขึ้น ส่งผลต่อดีการใช้ชีวิตและการทำงาน
  • เป็นการจัดฟันที่มีองค์ความรู้มากที่สุด เนื่องจากมีการวิจัยเยอะและได้รับการยอมรับทั่วโลก มีการพัฒนาอยู่ตลอด
  • ช่วยทำให้ฟันเข้าที่ ปรับโครงหน้าให้สมส่วนมากขึน

ข้อจำกัดของการจัดฟันแบบโลหะ

  • อาจจะต้องพบคุณหมอบ่อย อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง หรือถ้ามีอุปกรณ์หลุดหรือลวดทิ่มกระพุ้งแก้มก็ต้องเข้ามาที่คลินิกเพือตรวจดู
  • ใช้ระยะเวลานานกว่าถ้าเทียบกับจัดฟันแบบใส ประมาณ 2-4 ปี
  • ในช่วงแรกที่ติดเครื่องมือหรือปรับอุปกรณ์ จะมีอาการปวดหรือตึงๆบริเวณฟัน
  • เครื่องมืออาจจะบาดกระพุ้งแก้มหรือทิ่มเหงือกได้
  • ในระหว่างจัดฟัน มีเครื่องมืออยู่ในช่องปาก ทำความสะอาดยาก อาจจะทำให้มีกลิ่นปากหรือฟันผุได้ง่าย

ขั้นตอนการจัดฟันโลหะ

  1. ปรึกษา วางแผน X-ray
    คุณหมอพูดคุยกับคนไข้เพื่อวิเคราะห์ปัญหาที่คนไข้ต้องการแก้และ ตรวจสุขภาพช่องปาก, X-ray เพื่อประเมินการเรียงตัวของฟันและโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคน พร้อมทั้งเช็คสุขภาพช่องปากและแจ้งให้คนไข้ทำการเคลียร์ช่องปาก และ พิมพ์ปากเพือนำไปประกอบการวางแผนจัดฟัน
  1. ขั้นตอนการติดเครื่องมือจัดฟัน
    หลังจากที่เคลียร์ช่องปากเรียบร้อย คนไข้จะต้องเลือกสียางจัดฟันที่ต้องการแล้ว คุณหมอจะทำการติด แบร็กเก็ตบนตัวฟันพร้อมทั้งใส่ลวดและยางจัดฟัน ในบางกรณีอาจะมีอุปกร์เสริมเช่น ไบต์ยกฟัน, ยางเกี่ยวฟัน หรือบัททอน
  2. เข้ามาพบคุณหมอทุกเดือนตามนัด
    เพื่อให้คุณหมอตรวจการเคลื่อนที่ของฟันและปรับเปลี่ยนยางจัดฟันที่รัดลวดกับแบล๊กเก็ตเนื่องจากยางจัดฟันจะคลายตัวเมื่อเวลาผ่านไป โดยคนไข้ของทางคลินิก สามารถเลือกสียางจัดฟันหลากหลายสีสันได้เลยนะครับ หากในระหว่างเดือน แบล๊กเก็ตเกิดหลุด หรือมีลวดทิ่ม สามารถเข้ามาที่คลินิกได้ก่อนเลยนะครับ

  3. ถอดเครื่องมือจัดฟัน ใส่รีเทนเนอร์
    หลังจากที่ฟันเข้าที่สวยงาม โดยตกลงกันทั้งคนไข้และคุณหมอแล้ว คุณหมอจะทำการถอดเครื่องมือจัดฟัน พร้อมทั้งพิมพ์ปากเพื่อทำรีเทนเนอร์ หลังจากนั้นอีก 1 สัปดาห์ คนไข้ก็จะได้ใส่รีเทนเนอร์เพื่อประคองฟันให้อยู่ในสภาพเดิม โดยจำเป็นต้องใส่รีเทนเนอร์อย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของคุณหมอ

ข้อควรปฏิบัติระหว่างจัดฟันโลหะ

การดูแลสุขภาพฟันแลช่องปากระหว่างจัดฟันเป็นสิ่งสำคัญมากเนื่องจาก ในระหว่างจัดฟันจะเกิดเศษอาหารสะสมและฟันผุได้ง่าย โดยคุณหมอจะแนะนำวิธีดูแลฟันและช่องปากด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

  1. แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยแปรงตามวิธีที่ถูกต้องสำหรับคนจัดฟันโลหะ
  2. เลือกใช้แปรงสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ เพื่อให้ทำความสะอาดฟันและเหล็กจัดฟันได้ดีที่สุด โดยที่ไม่ส่งผลต่อเหล็กจัดฟัน
  3. ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์หรือยาสีฟันสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ
  4. พบคุณหมอจัดฟันตามนัดทุกครั้ง เพื่อที่จะให้คุณหมอปรับเครื่องมือและประเมินการเคลื่อนที่ฟัน
  5. ใช้แปรงซอกฟันและไหมขัดฟันเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
  6. ตรวจสุขภาพช่องปากทุกๆ 6 เดือน เพื่อให้คุณหมอประเมินว่าปัญหาอะไรในช่องปากบ้างเช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ หินปูน เป็นต้น จะทำให้
  7. ช่วงแรกที่ติดเครื่องมือจัดฟัน หรือปรับลวดจัดฟัน อาจมีอาการปวดฟัน สามารถทานยาพาราแก้ปวดได้
  8. หากมีลวดทิ่มกระพุ้งแก้มหรือแบล๊กเก็ตบาด สามารถใช้ขึ้ผึ้งปั้นเป็นก้อนกลมๆแปะได้เพื่อลดอาการระคายเคือง
  9. ถ้าเกิดหากเกิดแผลหรือรู้สึกระคายเคืองมาก หรือเครื่องมือเสียหายหหรือหลุดออก สามารถนัดมาพบกับคุณหมอจัดฟันได้ก่อนที่จะถึงวันนัดในครั้งถัดไป

จัดฟันโลหะใช้เวลานานเท่าไหร่

ในการจัดฟันแบบโลหะ ระยะเวลาในการจัดฟันนั้นจะขึ้นอยู่กับความร่วมมือของคนไข้ในการเข้ามาปรับเครื่องมือเป็นส่วนสำคัญที่สุด รวมถึงโครงสร้างของฟัน ปัญหาที่คนไข้ต้องการจะแก้ไขและอายุของคนไข้ โดยปกติจะใช้ระยะเวลา 2-3 ปี แต่หากมี การถอนฟัน หรือการผ่าตัดร่วมกับการจัดฟัน อาจจะใข้ระยะเวลานานกว่าเดิมควรสอบถามระยะเวลาให้แน่ชัดก่อนทีจะตัดสินใจจัดฟัน

ข้อควรระวัง การจัดฟันโลหะ

  • หลีกเลี่ยงการเคี้ยวของแข็ง เช่น น้ำแข็ง เนื้อสเต๊ก หมากฝรั่ง ถั่วชนิด เป็นต้น เนื่องจากจะทำให้อุปกรณ์จัดฟันหลุดหรืองอได้
  • ห้ามใช้ลิ้นสัมผัสบริเวณที่ติดเครื่องมือหรือลวดจัดฟัน เนื่องจากจะทำให้รบกวนเครื่องมือจัดฟันและกระบวนการจัดรูปฟันได้
  • ห้ามทานอาหารที่เป็นกระดูก เช่น ไก่ทอด ไก่ย่าง หากคนที่จัดฟันที่เลือกแทะหรือกัดโดยตรงอาจทำให้อุปกรณ์หลุดหรือลวดจัดฟันบิดเบี้ยวได้
  • ห้ามดูดนิ้วหรือกัดเล็บ จะทำให้เครื่องมือหลุดหรือลวดงอได้ ส่งผลต่อการเคลื่อนที่ของฟัน

หลังจัดฟันโลหะ ควรดูแลอย่างไร

  • หลังจัดฟันเสร็จ คุณหมอจะให้ถอดเครื่องมือและใส่รีเทนเนอร์ คนไข้จำเป็นต้องทำตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เพื่อให้ฟันอยู่ในสภาพเดิม สวยงามไปตลอด นอกจากนี้ควรรักษารีเทนเนอร์ทั้งคุณภาพและความสะอาดให้ดีด้วย เพราะเป็นตัวช่วยสำคัญในการคงสภาพฟันของเรา
  • หลังใส่รีเทนเนอร์ในช่วงแรกๆ หากมีปัญหา หลวมไป หรือแน่นเกินไป สามารถเข้ามาให้คุณหมอปรับรีเทนเนอร์ให้เร็วที่สุด
  • ในช่วงแรกของการถอดเครื่องมือ เนื่องจากฟันยังไม่แข็งแรงควรเลี่ยงอาหารเหนียวและแข็งไปก่อน
  • แปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อดูแลช่องปากให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ
  • หมั่นตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ ทุกๆ 6 เดือน เพื่อขูดหินปูนและตรวจฟัน ดูฟันผุ ความแข็งแรงของเหงือก

จัดฟันแบบโลหะราคาเท่าไหร่

ส่วนใหญ่ในแต่ละคลินิกตั้งราคาในการจัดฟันแบบโลหะโดยการให้คนไข้แบ่งชำระได้เป็นรายเดือน เดือนละ 1000-1500 บาท โดยราคารวมนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 35,000-45,000 ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นและความยากง่ายของแต่ลเคส โดยในขั้นตอนการติดเครื่องมือและเคลียร์ช่องปากอาจจะต้องชำระค่าใช้จ่ายเยอะกว่าช่วงระหว่างจัดฟัน เพราะฉะนั้นคนไข้ควรเตรียมเงินสำรองไว้ให้เรียบร้อยนะครับ

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก “โปรโมชั่นจัดฟันโลหะ”

คำถามที่พบบ่อยสำหรับจัดฟันโลหะ

เบื้องต้นต้องเข้าพบคุณหมอ เพื่อให้คุณหมอประเมินช่องปากและสอบถามความต้องการของคนไข้ว่าต้องการแก้ไขปัญหาอะไรบ้าง แล้วคุณหมอก็จะให้ X-ray เพื่อประเมินโครงหน้าและพิมพ์ปากเพื่อสร้างแบบจำลองฟัน สำหรับใช้วางแผนการรักษา

โปรโมชั่น Soft&Smile : ฟรีค่าปรึกษา X-ray , พิมพ์ปาก สามารถเข้ามาปรึกได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

เข้ามาปรึกษาคุณหมอ ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ถ้าสนใจจองโปรจะมีค่าจองโปรโมชั่น 700 บาทนะครับ หลังจากนั้นจะมีค่าติดเครื่องมือขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นที่เลือก ราคาเริ่มต้นที่ 999 บาทติดเครื่องมือด้านบน ปรับเครื่องมือมี 3 โปรโมชั่นให้เลือก 1000 | 1200 | 1500 บาท มีโปรโมชั่นแถม รีเทนเนอร์ ติดอุปกรณ์หลุด 3 ตัว ถอดเครื่องมือและอื่นอีกมากเลย

     การเคลียร์ช่องปากคือ การเตรียมช่องปากให้มีความพร้อมมากที่สุดก่อนที่จะติดเครื่องมือจัดฟันโดยการ ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด ซึ่งคุณหมอจัดฟันจะเป็นคนประเมินว่าเราต้องทำอะไรบ้าง

     โดยค่าใช้จ่ายในการเคลียร์ช่องปากของคนไข้จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพช่องปากของคนไข้ในแต่ละเคส และความต้องการของคนไข้ว่าต้องการจัดฟันเพื่อแก้ปัญหาอะไรบ้าง เช่นถ้ากังวลเรื่องฟันยื่น อาจจำเป็นต้องถอนฟัน

การเคลียร์ช่องปาก ไม่จำเป็นต้องทำภายในครั้งเดียว สามารถทยอยทำได้เรื่อยๆโดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนและสามารถใช้สิทธิประกันสังคม ทำฟัน ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด 900 บาท/ปี โดยไม่ต้องสำรองจ่ายที่ Soft&Smile ได้เลยครับ

สนใจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม “ทำฟันใช้สิทธิประกันสังคม”

 

ถ้าคนไข้ไม่สะดวกเดินทางไปคลินิกเดิม หรือเหตุผลอื่นๆ สามารถย้ายมาที่ Soft&Smile ได้เลยครับ โดยสามารถเข้ามาพบคุณหมอเพื่อปรึกษาได้ฟรี คุณหมอจะประเมินว่าคนไข้สามารถใช้เครื่องมือเดิมต่อได้หรือไม่

  • ถ้าใช้ต่อได้ จะมีค่าใช้จ่าย 3000 บาทสำหรับครั้งแรก ฟรี X-ray และผ่อนรายเดือน เดือนละ 1500 บาท
  • ถ้าใช้เครื่องมือเดิมไม่ได้ ต้องถอดเครื่องมือ แล้วสามารถเลือกโปรจัดฟันของคลินิกได้ครับ

ระยะเวลาในการจัดฟันโลหะจะขึ้นอยู๋กับความซับซ้อนของฟันของคนไข้ ความร่วมมือของคนไข้ในการเข้ามาปรับเครื่องมือทุกๆเดือน การดูแลช่องปากให้ดีอยู่เสมอ การเกี่ยวยางตามที่คุณหมอแนะนำ เป็นต้น โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 1-3 ปี

ในช่วงติดเครื่องมือใหม่ๆ และปรับเครื่องมือในแต่ละเดือน จะมีอาการปวดตึงเล็กน้อย ในช่วง 3-5 วันแรก โดยอาการจะค่อยๆทุเลาไปเอง หากคนไข้ทนไม่ไหว สามารถทานยาเพื่อลดอาการปวดได้

     เบื้องต้นแนะนำควรรอให้ฟันแท้ขึ้นครบก่อนแล้วค่อยเริ่มจัดฟัน แต่หากคนไข้เด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับช่องปากจริงๆก็สามารถเข้าปรึกษาคุณหมอได้เลยครับ

     ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับจัดฟันมากที่สุดคือ ช่วงอายุ 10-14 ปี เพราะกระดูกกรามกำลังอยู่ในช่วงพัฒนา ทำให้สามารถเคลื่อนที่ฟันได้ดี ทำให้มีการสบฟันที่ดีและโครงหน้าที่สวยงามในอนาคต

 

     หากคนไข้มีอาการปวดในช่วงแรกๆ ควรทานอาหารอ่อนๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ซุป ไข่ตุ๊น หรือขนมนิ่มๆก็ได้ ให้เคี้ยวช้าๆลดการกระแทกของฟันบนและล่าง

     หลังจากที่หายปวด เนื่องจากมีอุปกรณ์จัดฟันในช่องปาก จะทำให้อุปกรณ์ชำรุดหรือหลุดออกมาได้ ควรงดอาหารแข็ง/เหนียว เพราะจะทำให้อุปกรณ์จัดฟันหลุดได้ เช่นพวกเนื้อสเต๊ก ถั่วชนิดๆต่าง

 

     จัดฟันโลหะจะมีแรงดึงฟันจากลวด โดยจะมีอาการปวดในช่วง 3-5 วันแรก หลังจากนั้นอาการจะค่อยๆบรรเทาลง โดยส่วนใหญ่จะหายไปเองภายใน 1 อาทิตย์ โดยอาการปวดจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและความซับซ้อนของการเรียงฟันด้วย

     เนื่องจากการจัดฟันในกรณีที่แก้ไขปากอูมหรือฟันยื่น จะมีการถอนฟันก่อน หลังจากจัดฟันเสร็จแล้วอาจจะทำให้จมูกเข้ารูป โครงสร้างหน้าดูดีขึ้น เพราะฉะนั้น ควรจัดฟันก่อนแล้วค่อยไปปรึกษาคุณหมอทางด้านศัลยกรรมจมูกจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

     หากในกรณีที่เป็นเคสที่มีพื้นที่ให้คุณหมอขยับฟันได้หรือเคสที่ไม่ได้ซับซ้อนมาก ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องถอนฟันก็ได้ แต่หากปรึกษากับคุณหมอแล้ว คุณหมอแนะนำให้ถอนฟัน คนไข้สามารถสอบถามทางเลือกอื่นๆได้ ในกรณีที่ไม่อยากถอนฟันและผลลัพธ์ของแต่ละทางเลือกจากคุณหมอได้เลยครับ

     จัดฟันในเด็กมักใช้เวลาน้อยกว่าวัยผู้ใหญ่ เนื่องจาก รากฟันของฟันเด็กสามารถเคลื่อนที่ได้ง่ายกว่าของผู้ใหญ่เพราะความหนาแน่นของกระดูกที่น้อยกว่าวัยผู้ใหญ่

  • ในช่วงการจัดฟันเด็กช่วงอายุ 6-11 ปี จะใช้การจัดฟันเฉพาะตำแหน่งหรือบางซี่ เพื่อให้เกิดความฟันที่เรียงสวยหรือเพื่อให้ปัญหาในช่องปากลดลงได้ และอาจจะเพื่อให้มีพื้นที่ให้ฟันแท้งอกขึ้นได้ในตำแหน่งที่เหมาะสม
  • ในวัยที่ฟันแท้ขึ้นครบ หรือประมาณ 12 ปีขึ้นไป จะจัดฟันเพื่อให้ฟันเรียงตัวสวยงามซึ่งจะใช้ระยะเวลามากกว่าในช่วงวัย 6-11 ปี
  • ในวัยผู้ใหญ่ จะใช้เวลานานกว่าวัยเด็ก แต่ก็คุ้มค่าที่จัดฟันเพราะเป็นวัยที่ต้องการความมั่นใจในรอยยิ้มเพื่อเสริมสร้างบุคลลิกภาพ

การจัดฟันจะทำให้โครงหน้าเปลี่ยนแปลง โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  1. คนไข้ในช่วงวัยรุ่นอายุ 10-15 ปี ในช่วงนี้กระดูกขากรรไกรกำลังเติบโต การแก้ไขให้ฟันเรียงตัวสวยโดยการจัดฟัน สามารถส่งผลให้มีโครงสร้างและรูปร่างใบหน้าที่สวยงามขึ้นได้
  2. การจัดฟันร่วมกับผ่าตัดขากรรไกร ในเคสที่เป็นล่างคร่อมฟันบน หรือเคสอื่นๆที่มีความจำเป็นต้องผ่าตัดขากรรไกร แล้วจัดฟันร่วมด้วย จะทำให้โครงหน้าดึขึ้นอยู่อย่าแน่นอน
  3. เมื่อคุณหมอวาางแผนให้ถอนฟัน เพื่อทำให้ปากอูมลดลง โดยสามารถทำให้จมูกดูโด่งขึ้นเมื่อถอนฟันด้านบน และ คางชัดขึ้นเมื่อมีถอนฟันด้านล่าง
  4. ในระหว่างจัดฟัน เนื่องจากมีอุปกรณ์ในช่องปากทำให้คนไข้เคี้ยวลำบาก เคี้ยวน้อยลง ทำให้กล้ามเนื่อบดเคี้ยวทำงานน้อยลง แก้มก็จะดูเรียวขึ้น อาจจะเป็นผลแค่ชั่วคราวเท่านั้น

หากต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างใบหน้าหรือทำให้หน้าเรียว สามารถปรึกษากับคุณหมอของทาง Soft&Smile ถึงผลลัพธ์และข้อจำกัดต่างได้เลย

    รีเทนเนอร์เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมาก เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การเรียงตัวฟันคงสภาพเดิมไปตลอด เพราะฉะนั้นในช่วง 6 เดือน - 1 ปีหลังจัดฟันเสร็จ ควรใส่รีเทนเนอร์ตลอดทั้งวัน ถอดออกเฉพาะตอนแปรงฟันกับทานข้าวเท่านั้น เนื่องจากช่วงที่เพิ่งจัดฟันเสร็จ ฟันมีโอกาสที่จะเคลื่อนกลับไปในตำแหน่งก่อนจัดฟันได้ง่าย ซึ่งถ้าผ่านช่วงแรกไปอาจจะใส่เฉพาะตอนนอนหรือกลางคืนก็ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละเคส

หากสามารถใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด รอยยิ้มของเราก็จะสวยตลอดไปเลยนะครับ

สรุปเกี่ยวกับการจัดฟันโลหะ

หากเราจะเลือกการจัดฟันโลหะเพื่อที่จะทำให้มีการสบฟันที่ดีขึ้น ฟันเรียงตัวสวยขึ้น โครงหน้าสวยงามขึ้น ดั้งนั้นเราควรศึกษาข้อมูล สอบถามคุณหมอเกี่ยวกับแผนการรักษา ระยะเวลาและผลลัพธ์ของการจัดฟัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นที่น่าพอใจของเรา โดยที่คลินิก Soft&Smile ของเรายินดีจะให้คำปรึกษากับคนไข้เกี่ยวกับการจัดฟันอย่างละเอียด สามารถทำนัดเพื่อปรึกษาคุณหมอของเราได้เลยนะครับ

เราพร้อมออกแบบรอยยิ้มโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางหลากหลายสาขา

Line
Messenger
Messenger
Line